รับประทานวิตามินบีแล้วปัสสาวะเป็นสีเหลือง ปลอดภัยหรือไม่?     วิตามินบีเป็นหนึ่งในวิตามินกลุ่มสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ แต่รับประทานอย่างไรให้เหมาะสม และจำเป็นต้องรับประทานผลิตภัณฑ์วิตามินบีเพิ่มหรือไม่ สามารถชมจากคลิปได้เลยครับ     วิตามินบีสอง (Riboflavin) ในปริมาณที่มากเกินความจำเป็นจนทำให้ปัสสาวะออกมาเป็นสีเหลือง ไม่เป็นอันตราย แต่หากไม่ต้องการให้ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มจากวิตามินบี ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินบีสองอยู่ในปริมาณน้อยหรือไม่มีวิตามินบีสอง แม้ว่าวิตามินบีสองมีความปลอดภัยสูง แต่ไม่ได้หมายความว่าการรับประทานวิตามินบีรวมในขนาดสูงจะปลอดภัยเสมอไป      เราอาจแยกผลิตภัณฑ์วิตามินบีง่ายๆออกเป็นสองประเภท คือ 1. ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินบีผสมอยู่ในขนาดทั่วไป     ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มักจะจัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (มีเครื่องหมายอ.ย. กำกับ) 2. ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินบีผสมอยู่ในขนาดสูง      ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้มักจะจัดเป็นยา (มีเลขทะเบียนยา กำกับ)     วิตามินขนาดสูงไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคน แต่จำเป็นสำหรับบางคนดังนั้นควรเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์

L-Theanine ตอนที่ 1 “ความเครียดเกิดง่าย L-Theanine จึงน่าสนใจ”     ในชีวิตประจำวันความเครียดเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากการทำงาน เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือสภาพแวดล้อม เจ้าความเครียดนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำไปสู่การเกิดโรคภัย เช่น โรคความดัน โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไปจนถึงอาการผิดปกติทางจิตประสาท [1] การป้องกันหรือลดความเสี่ยงจากความเครียดจึงเป็นเรื่องสำคัญในการดูแลสุขภาพ     การดื่มชาได้รับความนิยมมานาน และชาก็เป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องดื่มที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย จากงานวิจัยพบว่าในใบชามีสาร “L-theanine” (แอล-ธีอะนีน) สามารถช่วยเพิ่มคลื่นอัลฟ่า (α-waves) ในสมองมนุษย์ ซึ่งบ่งชี้ว่าสาร L-theanine (ขนาด 50-200 mg) ช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย หลังจากรับประทานเข้าไปประมาณ 40 นาที (แต่ไม่ได้ทำให้เกิดอาการง่วงนอน) [2] ดังนั้นการดื่มชา หรือรับประทาน L-theanine จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการเพิ่มความผ่อนคลายในชีวิตประจำวัน เรียบเรียงโดย Gibb Corner ภาพประกอบโดย Gibb Corner แหล่งอ้างอิง [1] G

องุ่น ตอนที่ 1 “จุดเริ่มต้นมหากาพย์ งานวิจัยในองุ่น”     องุ่นเป็นผลไม้ที่มีบันทึกการบริโภคมายาวนานไม่ว่าในรูปแบบผลไม้สด ผลแห้ง (ลูกเกด) หรือ ไวน์ ในปัจจุบันองุ่นเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก  นอกจากนี้ในแง่มุมของงานวิจัย องุ่นก็เป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่มีงานวิจัยมากที่สุดเช่นกัน ปรากฏการณ์สำคัญที่ดึงดูดให้นักวิจัยมากมายสนใจในเรื่องราวขององุ่น คือ “French paradox”     “French paradox” เป็นคำที่ใช้กล่าวถึงเรื่องราวประหลาดเกี่ยวกับผู้คนในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมันแปลกตรงที่ชาวตะวันตกส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารที่ให้พลังงานสูง (คาร์โบไฮเดรตและไขมันเยอะ) จึงมักจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคในระบบหัวใจและหลอดเลือด แต่จากข้อมูลการสำรวจกลับพบว่าชาวฝรั่งเศสมีความเสี่ยงในการเกิดโรคในระบบหัวใจและหลอดเลือดต่ำ และที่แปลกไปกว่านั้น พบว่าความเสี่ยงที่ต่ำนี้เกิดขี้นในกลุ่มชาวฝรั่งเศสทีดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ (20-30 กรัมต่อวัน) [1] ทั้งที่ข้อมูลงานวิจัยมากมายบ่งชี้ว่าการบริโภคแอลกอฮอล์สามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคเรื่องรังหลายชนิด รวมถึงความผิดปกติด้านสุขภาพจิต [2] การค้นพบดังกล

“เมื่อสุขภาพดีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเพิ่มวาสนา?”     ปัจจุบันภัยจากฝุ่น PM 2.5 เป็นอันตรายใกล้ตัว ไม่เฉพาะบริเวณพื้นที่กทม. แต่รวมไปถึงอีกหลายจังหวัดด้วย     ขนาดอนุภาคที่เล็กมาก ทำให้เจ้าฝุ่นชนิดนี้สามารถทะลุผ่านระบบทางเดินหายใจเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความเจ็บป่วยและเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังอาจมีอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นการป้องกันตัวเองจากมลพิษดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญ [1]     ในเบื้องต้นเราควรป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 โดยการหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝุ่นเยอะ การใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง และการรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่มีอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอใคร คือ “การเพิ่มวาสนา”     การเพิ่มวาสนาในที่นี้หมายถึงการปลูกต้นวาสนาช่วยฟอกอากาศ เพราะนอกจากเป็นไม้มงคลแล้ว วาสนานับเป็นหนึ่งในพืชที่สามารถช่วยเรากรองอากาศได้ [2] นอกจากนี้วาสนาสามารถปลูกไว้ในที่ร่ม (พอได้รับแสงแดดรำไร) ภายในบ้าน ร้านค้า คอนโด หรือ บริเวณที่มีพื้นที่จำกัดได้ ดังนั้นปัจจุบันการปลูกวาสนาไม่ใช่เพียงเรื่องความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ แต่ยังช่ว

เปลือกสน ตอนที่ 1 “เรื่องเล่าจากนักสำรวจชาวฝรั่งเศส”     ในสมัยก่อน โรคลักปิดลักเปิด (Scurvy) ซึ่งเกิดจากการขาดวิตามินซี นับว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เหล่าคนเรือเสียชีวิต เนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่ได้มีความเข้าใจถึงสาเหตุและวิธีการรักษาโรคนี้เหมือนในปัจจุบัน แต่มีบันทึกจากช่วงปีค.ศ. 1535 ว่า Jacques Cartier นักสำรวจชาวฝรั่งเศสผู้โชคดี ได้เรียนรู้วิธีการชงเครื่องดื่มจากเปลือกสนซึ่งเป็นภูมิปัญญาจากชนพื้นเมืองอเมริกัน ทำให้เขาและลูกเรือสามารถรอดชีวิตจากโรคลักปิดลักเปิดมาได้     เรื่องราวดังกล่าวบ่งชี้ว่า ในเปลือกสนอาจประกอบด้วยสารที่ทำหน้าที่เหมือนวิตามินซี หรือช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพของวิตามินซี ซึ่งได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับ Jacques Masquelier นักวิจัยชาวฝรั่งเศสเริ่มต้นศึกษาส่วนประกอบสำคัญและผลดีต่อสุขภาพจากเปลือกสน (ช่วงค.ศ. 1950-1970) นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เปลือกสนกลายเป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในระดับโลก เรียบเรียงโดย Gibb Corner ภาพประกอบโดย Gibb Corner แหล่งอ้างอิง [1] Fine, A. M. (2000). Alternative medicine review: a journal of clinical

เรามุ่งมั่นในการสร้างเรื่องราวความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ และพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้คน โดยให้ความสำคัญทั้งในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ Gibb Corner Facebook: https://www.facebook.com/GibbCorn m.me/GibbCorn gibbcorn@gmail.com Line: @GibbCorn Youtube channel: Gibb Corner